คำอธิบาย
พระผงพรายสมุทรอชิโต พิมพ์ปรกโพธิ์เล็ก บล็อกโพธิ์ข้าง พ่อท่านเจิม วัดหอยราก ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ปี 2499
“ของเราทำแล้วต้องทำให้ดีให้ถูกต้องตามตำราโบราณจริง อย่ามักง่ายทำของไม่ดีหลอกชาวบ้าน ทำให้ญาติโยมได้เห็นกับตา ฟังได้เต็มสองหูตัวเอง” พระครูพิศาลวรเวทย์ (พ่อท่านเจิม) ได้กล่าวไว้
พ่อท่านเจิม วัดหอยราก ได้มีการจัดสร้างพระผงพรายสมุทรอชิโตขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2499 ท่านได้เสาะแสวงหาและรวบรวมมวลสารโดยใช้ระยะเวลานานกว่า 7-8 ปี ซึ่งมวลสารที่พ่อท่านเจิมได้ใช้ในการจัดสร้างวัตถุมงคลล้วนมีพุทธคุณและคุณวิเศษมากมายในตัวและเป็นมวลสารที่หาได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะดินพรายสมุทร (สะดือทะเล) ที่ต้องดำน้ำลึกลงไปเอาให้ได้ถึง 108 ปั้น เพราะท่านต้องการทำให้ขลังใช้ได้จริง นอกจากนี้ยังมีมวลสารที่นำมาจัดสร้างอีกมาก ได้แก่
• ว่าน 108 ชนิด จำนวน 108 บาตร
• ดินพรายสมุทรท้องทะเลลึก 108 ปั้น
• ดินท้องแม่น้ำปากพนัง 108 ปั้น
• ดินกลางวัด 108 วัด จำนวน 108 ปั้น
• ดินกลางนา 108 แปลง จำนวน 108 ปั้น
• ดินหาดทรายแก้ว 108 หาด
• ดินกลางไร่ 108 ไร่
• ดินรูปูนา 108 รู
• ดินปราบหญ้าไม่งอก 108 ปราบ
• ดินจอมปลวกวัวเลีย 108 จอม
• ดินกลางสระน้ำ 108 สระ
• เถ้าเชิงตะกอนเผาศพ คนตายวันเสาร์เผาวันอังคาร 7 ป่าช้า บดเป็นผง 108 จอก
• เถ้าหนังสือใบลาน 108 จอก
• ดินป่าช้า 3 วัด 108 ปั้น
• ดอกไม้บูชาพระบรมธาตุวันมาฆบูชาที่ตรงวันเสาร์ขึ้น 15 ค่ำ บดเป็นผง 108 จอกชา
• น้ำจากหุบเขาชัยราชเป็นส่วนผสมสำหรับปั้นพระ
• น้ำฝนตกชายคาพระอุโบสถที่ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 10 ค่ำ เป็นส่วนผสมสำหรับปั้นพระ • พระผงท่าเรือ จ.นครศรีธรรมราช
• ดินพอกหางหมู 108 ก้อน และยังมีมวลสารที่สำคัญอีกกว่า 700 ชนิด โดยมีพระสมุห์เผียน หมอเพียร ชาวบ้านหนองนก หมอปลื้ม ช่วยกันจัดหา
พ่อท่านเจิมได้ปลุกเสกพระผงพรายสมุทรด้วยพระคาถามหาหมื่น 10,000 จบ เป็นเวลานานกว่า 5 ปี ก็เป็นอันสัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์ รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ขึ้น 8 ค่ำ เดือนเดียวกันเป็นปฐมฤกษ์ของการแจกจ่ายวัตถุมงคลอันเป็นมหามงคลฤกษ์ของอมฤตโชค แปลว่าเป็นโชคอันไม่ตาย ผงพรายสมุทร อชิโต ของพ่อท่านเจิม จึงเป็นวัตถุมงคลที่มีความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
ถือว่าเป็นพระผงกระดูผีอาถรรพ์อันดับต้นๆของภาคใต้ ทั้งโชคลาภ คุ้มครอง เป็นเยี่ยม เป็นลักษณะคุณ ไม่มีโทษใดๆทั้งสิ้น
วิธีการบูชาพระผงพรายสมุทรอชิโต มีดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวต่อว่า
“ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเท ถาสัตถิระ สามะทัมสะ ริปุโรตะ นุตอะทูวิ กะโลโตคะ สุโนปันสัม ณะระจะชา วิชโธพุทสัมมาสัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ”