Description
พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ใหญ่ เนื้อดินเผาผสมผง กรุเพดานโบสถ์ หลวงพ่อพ่วง วัดกก บางขุนเทียน จ.กรุงเทพฯ ปี 2473 พิมพ์นิยม สภาพสวยสมบูรณ์
ในสมัยที่พระอุปัชฌาย์พ่วง หรือหลวงพ่อพ่วง แห่งวัดกก บางขุนเทียน ได้ทำการจัดสร้างพระเครื่องเนื้อดินเผาชุดนี้ ท่านได้สั่งให้ลูกศิษย์ไปนำดินมาจากจังหวัดนนทบุรี โดยดินที่ได้มานั้นเป็นดินเหนียวที่ขุดมาจากท้องนา จากอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยขนลงเรือแล้วล่องตามน้ำมาที่วัดกก
เมื่อดินเหนียวขนมาถึงวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อพ่วงท่านก็นำดินเหนียวที่ได้มาจากท้องนา (โดยที่ไม่ได้กรองดินก่อน จึงทำให้ดินเหล่านั้นมีแร่เม็ดกรวดเม็ดทรายปะปนอยู่ด้วย) นำมาผสมกับผงวิเศษ 5 ประการ อันมีผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ผงปถมัง ผงมหาราช และผงพุทธคุณ
นอกจากนี้ยังผสมด้วยสมุนไพร ว่านต่างๆ และแร่บด ตลอดจนปากเหยี่ยว ปากกา เขี้ยวเสือ เล็บเสือ งาช้าง ที่ท่านเก็บไว้ นำมาบดพอละเอียดแล้วจึงนำมาผสมลงในดินเหนียวที่จะสร้างพระเครื่อง
ช่างแกะพิมพ์พระชุดนี้ได้แก่นายจง พึ่งพรหม และนายชิต ซึ่งช่วยกันแกะพิมพ์ เมื่อแกะพิมพ์พระขึ้นเสร็จ หลวงพ่อได้เอาดินที่ผสมกับผงวิเศษทั้ง 5 ประการ สมุนไพร และมวลสารต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว นำมากดพิมพ์พระ โดยหลวงพ่อพ่วงตั้งใจที่จะสร้างให้ได้ 84,000 องค์ ซึ่งเท่ากับจำนวนของพระธรรมขันต์ จึงได้ขอร้องให้ทางวัดสีสุก และ วัดยายร่ม ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันมาช่วยกดพิมพ์พระด้วย
เมื่อกดพิมพ์พระเสร็จแล้ว หลวงพ่อพ่วงท่านให้นำพระเครื่องทั้งหมดไปผึ่งแดดจนแห้งได้ที่ แล้วเข้าเผาโดยสุมแกลบที่ลานวัด ในขณะที่เผาพระเครื่องเนื้อดินเหนียวอยู่นั้น หลวงพ่อพ่วงจะเฝ้าบริกรรมปลุกเสกแผ่พลังจิตลงไป ขณะที่พระได้รับความร้อนเป็นการหนุนเตโชธาตุ (ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งหลวงพ่อโหน่งท่านก็ปลุกเสกขณะพระกำลังเผาไฟอยู่เช่นกัน)
หลังจากเผาพระเครื่องเนื้อดินเผาผสมผงเสร็จแล้ว หลวงพ่อพ่วงท่านจึงนำเข้าปลุกเสกภายในพระอุโบสถวัดกกเป็นเวลานานหลายพรรษา โดยท่านจะปลุกเสกอยู่ตลอดแทบทุกวันหลังจากทำวัตรสวดมนต์ในพระอุโบสถตั้งแต่ ปี พ.ศ.2473 จนถึงปี พ.ศ.2479 รวมระยะเวลานานถึง 6 ปีเต็ม แล้วจึงนำพระเครื่องเนื้อดินเผาทั้งหมดขึ้นเก็บไว้บนเพดานพระอุโบสถ (พระอุโบสถวัดกกนี้เป็นพระอุโบสถเก่าแก่ที่สร้างสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกเพียง 1 ปี)
ต่อมาในสมัยพระมหาสมบูรณ์ ปภากโร ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดกก (ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกกเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2535) ได้พบพระเครื่องหลวงพ่อพวงที่พบอยู่บนเพดานโบสถ์เหนือตำแหน่งพระประธาน เมื่อปี 2537 จึงได้ทำการเปิดกรุพระเครื่องเนื้อดินเผาของหลวงพ่อพ่วง ซึ่งบรรจุอยู่บนเพดานโบสถ์วัดกกออกมาให้ประชาชนได้เช่าบูชา ซึ่งทางวัดกกได้นำปัจจัยรายได้ทั้งหมดไปใช้ร่วมซ่อมแซมและบูรณะเสนาสนะต่างๆภายในวัดกก
เป็นพระเครื่องที่กล่าวขานกันมากถึงเรื่อง มหาอุดคงกระพัน มีพุทธคุณสูง จัดเป็นของดีราคาเบาๆที่ไม่ควรมองข้าม
